ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านน็อคดาวน์

บ้านน็อคดาวน์หรือบ้านสำเร็จรูป สวยงาม ตั้งเรียงราย ในสไตล์ต่าง ๆ มีทั้งแบบโมเดิร์น เรือนไทยหรือแนวรีสอร์ท ให้สามารถเลือกซื้อในราคาย่อมเยา แล้วนำไปตั้งบนแปลงที่ดินของตนเองได้ โดยกระบวนการสร้างบ้านลักษณะนี้จะไม่มีเสาหรือคานในการรับน้ำหนัก แต่เลือกใช้ผนังเป็นตัวยึดโครงสร้างแทนทำให้สามารถถอดชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกได้ เมื่อต้องถูกเคลื่อนย้าย ซึ่งรูปแบบบ้านลักษณะนี้กำลังเป็นที่นิยมในประเทศญี่ปุ่นและทางฝั่งยุโรปอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วบ้านน็อคดาวน์จะเป็นประเทศที่อยู่ในจุดเสี่ยงของการเกิดแผ่นดินไหวบ่อย ๆ อาจเป็นเพราะใช้เวลาก่อสร้างเร็ว ราคาถูก ความแข็งแรงทัดเทียมกับบ้านอันถูกสร้างขึ้นด้วยก่ออิฐ ฉาบปูนและด้วยข้อดีเหล่านี้เอง จึงทำให้เมืองไทยบ้านเราเริ่มได้รับกระแสความนิยมบ้านน็อคดาวน์เช่นกัน ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อควรรู้ของบ้านรูปแบบนี้เสียก่อนจะได้เข้าใจถึงการเตรียมพร้อมและดูแลรักษาบ้านน้อยหลังงามนี้ให้แข็งแรงทนทานไปอีกนาน

  1. ใช้ระยะเวลาสร้างเพียงน้อยนิด สืบเนื่องจากรูปแบบการสร้างบ้านน็อคดาวน์ หรือบ้านสำเร็จรูปที่หลายคนรู้จักนั้น จะไม่มีการลงเสาหรือคานแต่อย่างใด เป็นเพียงนำผนังเป็นตัวยึดโครงการ พร้อมประกอบให้เป็นบ้านในแบบที่ต้องการ ดังนั้นจึงทำให้ช่วยประหยัดเวลาก่อสร้าง ส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาเฉลี่ยประมาณ 2 สัปดาห์ แล้วเสร็จสามารถเข้าไปอยู่ได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบของบ้านด้วย
  2. งบประมาณค่าใช้จ่าย สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดในการสร้างบ้าน หากมีที่ดินเป็นของตนเองอยู่แล้ว บ้านน็อคดาวน์จึงกลายเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยประหยัดค่าใช้ง่ายได้ดี ปกติราคาของบ้านสำเร็จรูปทั่วไปจะมีราคาตั้งแต่ 100,000-500,0000 บาทขึ้นไป แต่จะว่าไป บ้านน็อคดาวน์ งบ 50,000 จนถึงหลักหมื่นปลาย ๆ ก็มี ทั้งนี้ขึ้นอยู่ขนาดและรูปแบบของบ้านเป็นหลัก
  3. รูปแบบบ้านหลากหลาย ปัจจุบันด้วยระดับความนิยมบ้านน็อคดาวน์หรือบ้านสำเร็จรูป ที่หลายคนคุ้นเคยนั้นมีมากขึ้น จึงทำให้มีหลายบริษัท ทั้งระดับเล็กไปจนถึงใหญ่ ต่างแข่งขันออกรูปแบบบ้านใหม่ เพื่อสร้างความน่าสนใจ และเป็นทางเลือกสุดวิเศษให้กับผู้ที่อยากมีบ้านน้อยหลังงามเป็นของตนเอง แต่มีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณการก่อสร้าง ทุกวันนี้รูปแบบบ้านดังกล่าว เรียกว่ามีหลากหลายมาก ทั้งสไตล์โมเดิร์น Loft เรือนไทย หรือสไตล์บ้านพักตากอากาศรีสอร์ท มีทั้งแบบบ้านชั้นเดียวและ 2 ชั้น
  4. วัสดุส่วนใหญ่ของบ้านน็อคดาวน์ โดยปกติแล้ววัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านน็อคดาวน์ จะใช้เหล็กเป็นโครงสร้างหลัก ส่วนผนังสำเร็จรูปจะเลือกใช้วัสดุที่มีน้ำหนักเบา ทนความร้อน และแข็งแรง อย่างที่หลายคนคุ้นเคยกับ Sandwich Panel หรือการนำแผ่นเหล็กเคลือบผิวอย่างดี พร้อมกรุด้วยโฟมที่มีคุณสมบัติไม่ติดไฟง่าย มาทำผนัง จึงทำให้มีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ซึ่งทั่วไปแล้ว ผู้ซื้อบ้านน็อคดาวน์ จะไม่สามารถขอเปลี่ยนวัสดุก่อสร้างได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางบริษัทผู้สร้างเป็นคนกำหนด
  5. ระบบสาธารณูปโภคควรรู้ กระบวนการก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ตามปกติแล้ว จะเริ่มต้นจากกำหนดตำแหน่งที่จะยกบ้านน็อคดาวน์มาวาง แล้วทำการเทปูนทำฐานราก หลังจากนั้นช่างจะประกอบผนังให้เป็นรูปร่างที่ดีไซน์ไว้ แล้วทำการวางระบบ ติดตั้งสาธารณูปโภคต่าง ๆ อาทิ น้ำ ไฟ ที่จำเป็นต้องใช้ในบ้าน รวมถึงสุขภัณฑ์ที่ใช้ในห้องน้ำ เรียกว่าสร้างเสร็จ พร้อมอยู่ได้เลย
  6. หากคิดอยากจะต่อเติม บ้านน็อคดาวน์ หากใครอยากคิดต่อเติมบ้านน็อคดาวน์เพิ่มเติม อาจจะต้องล้มเลิกความคิดไปเลย เนื่องจากโครงสร้างทั้งหมดของบ้านถูกจัดสรรขึ้น เพื่อรองรับความสำเร็จรูปทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่สามารถต่อเติมเพิ่มเติมใด ๆ ได้อีก หากดื้อดึงทำไป อาจจะส่งผลให้ตัวบ้านพัง ได้รับอันตรายได้
  7. ขนย้าย สะดวก ง่าย เร็ว ด้วยวัสดุการก่อสร้างที่มีคุณสมบัติเบา กะทัดรัด จึงทำให้สามารถเคลื่อนย้าย ยกตัวบ้าน ได้สะดวก แต่สำหรับบ้านน็อคดาวน์ 2 ชั้น อาจจะต้องใช้เทคนิคในการเคลื่อนย้ายเล็กน้อย
  8. ความแข็งแรง ทนทาน แม้การสร้างบ้านน็อคดาวน์ ไม่ได้ตอกเสาปูน หรือฝังเข็มเหมือนอย่างบ้านทั่วไป แต่โครงสร้างเหล็กนั้นถือว่าสร้างความแข็งแรง ทนทานได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับการเตรียมตัวที่ดินที่จะนำบ้านน็อคดาวน์ไปวางด้วย โดยจำเป็นต้องถมที่ให้แน่นระดับหนึ่ง เพื่อป้องกันตัวบ้านร้าว
  9. การดูแลรักษาบ้านน็อคดาวน์เป็นรูปแบบบ้านสำเร็จรูป ที่ไม่เหมาะจะเป็นที่อยู่อาศัยระยะยาว เนื่องจากวัสดุที่ใช้มีอายุการใช้งาน ดังนั้นการดูแลรักษาอาจจะมากเป็นพิเศษกว่าบ้านปกติ โดยควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีน้ำหนักไม่มาก และหมั่นทำความสะอาด เพื่อไม่ให้สัตว์ไม่พึงประสงค์ อย่าง งู หรือ หนู เข้ามาอยู่อาศัย
  10. วันหมดอายุบ้านน็อคดาวน์ ด้วยปัจจัยหลายประการทั้งวัสดุ ขนาดของบ้าน และอื่น ๆ จึงทำให้ส่วนใหญ่นิยมนำบ้านน็อคดาวน์ หรือบ้านสำเร็จรูปมาสร้างเป็นห้องแถวหรือรีสอร์ท แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ผนวกกับเกิดนวัตกรรมการสร้างบ้านแบบใหม่ จึงทำให้ช่วยต่ออายุของบ้านน็อคดาวน์ออกไปได้อีก 50 ปี เลยทีเดียว https://www.facebook.com/PremiumHouseModular/